วันศุกร์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2565

105 สุดยอดนักขาย

 ...

"จะขายหวีให้พระภิกษุอย่างไร"

ก่อนที่จะอ่านบทความต่อไปนี้ ลองครุ่นคิดใคร่ครวญดูว่า

หากคุณเป็นพนักงานขาย เจ้านายใช้ให้คุณขายหวีให้แก่

พระภิกษุ ซึ่งไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้หวีเลย   คุณจะ

ทำอย่างไร ลองนำไปทดสอบกับเพื่อนๆที่อยู่ข้างกายคุณ

ดูซิว่า เพื่อนของคุณเป็นคนประเภทไหน

 

# คนแรก  พอออกจากห้องผู้จัดการ    ก็ด่าโขมงโฉงเฉง...

ไอ้เห้.. พระมีผมที่ไหนวะ จะขายหวีได้ยังไง  ว่าแล้วก็ไป

ดื่มเหล้านจนเมา กลับไปนอนตื่นมาก็ไปรายงานผู้จัดการว่า

"พระไม่มีผม ขายหวีไม่ได้หรอก..."

ผู้จัดการฟังแล้วยิ้มๆ

"พระไม่มีผมต้องให้เอ็งมาบอกข้ารึ... หุหุ"


คนที่สอง มาถึงวัด บอกกับเจ้าอาวาสว่า

"ช่วยผมซื้อหวีสักอันเถอะ ถ้าผมขายไม่ได้ผมก็ไม่ได้งาน

ท่านเป็นพระ ต้องมีเมตตานะ..."

เจ้าอาวาสเลยซื้อไว้ 1 อัน...


คนที่สาม มาขายหวีที่วัด เจ้าอาวาสบอก

"ไม่มีความจำเป็นต้องใช้.."

เจ้าคนนี้เดินดูรอบๆวัด แล้วถามเจ้าอาวาสว่า

"ไหว้พระต้องจริงใจไหม"

พระบอก

"ต้อง.."

"แล้วจริงใจต้องแสดงออกถึงความเคารพไหม"

พระบอก

"ต้องสิ.."

คนๆนั้นก็เลยพูดว่า

"ดูสิ ผู้คนเขามาจากที่ไกลๆมาไหว้พระ มาถึงเนื้อตัวมอม

แมมไปด้วยฝุ่นผมเผ้ารุงรัง ทำไมไม่ซื้อหวีไว้ให้พวกเขา

หวี ล้างหน้าล้างตาให้สะอาด แล้วค่อยเข้าไปไหว้เล่า.."

เจ้าอาวาสคิดแล้วมีเหตุผล เลยซื้อไว้ 10 อัน...


คนที่สี่ มาขายหวีที่วัดเช่นกัน เจ้าอาวาสบอก

"ไม่ต้องการอีกแล้ว"

แต่คนนั้นบอกว่า

"ถ้าทางวัดซื้อหวีไว้แจกเป็นของขวัญให้คนมาไหว้จะเป็น

ของขวัญที่ทั้งมีประโยชน์และมีความหมาย  เงินทำบุญก็จะได้เยอะขึ้น..."

เจ้าอาวาสคิดแล้วมีเหตุผล ก็เลยซื้อไว้ 100 อัน...


คนที่ห้า มาขายหวีอีก เจ้าอาวาสบอก

"รับไม่ไหวแล้ว"

แต่คนนั้นบอกเจ้าอาวาสว่า

"ดูท่านก็เป็นสงฆ์ที่มีบารมี ลายมือพู่กันจีนของท่านก็สวย

ทำไมท่านไม่แกะสลักลงบนหวี เช่นคำว่า'หวีแคล้วคลาด

ปลอดภัย' 'หวีทวีบุญแล้วแจกให้ผู้มาไหว้พระเล่า  นี่ไม่เพียงเผยแพร่ศาสนายังส่งเสริมการเขียนพู่กันจีนอีกด้วย"

พระท่านยิ้มๆ บอกว่า

"ประเสริฐแท้"

จึงซื้อหวีไว้ 1,000 อัน...


คนที่หก  มาขายหวีเช่นกัน    เจ้าอาวาสรีบปฏิเสธก่อน

เช่นเคย  แต่พอคนนี้กระซิบคุยกับเจ้าอาวาส  ท่านตกลง

ซื้อเลย 10,000 อัน  เขาคุยอะไรกับเจ้าอาวาสหรือ...เขา

บอกเจ้าอาวาสว่า

"หวีเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องพกติดตัวโดยเฉพาะผู้หญิง (เห็นมะต้องคิดแบบยิว เรื่องผู้หญิงต้องมาก่อนเป็นไม่ผิด.อิอิ)

ถ้าท่านเอาหวีเหล่านี้มาปลุกเสก   มันก็จะกลายเป็นของ

ขลังไว้ปกป้องตัวเขา   เขาจะได้ทั้งทำบุญและปลอดภัย

แคล้วคลาด   บางทีอาจเช่าไปฝากมิตรสหายด้วย  นี่ไม่

เพียงได้บุญกุศล  ยังได้เผยแพร่ศาสนา   เผยแพร่ชื่อวัด

ด้วย... เรื่องดีๆอย่างนี้ ท่านจะไม่ทำหรือ..."

เจ้าอาวาสรีบประนมมือ..

"อมิตตะพุทธ ประเสริฐยิ่ง   ในเมื่อโยมมีความปารถนาดี

เยี่ยงนี้ ทำไมอาตมาจะไม่ทำเล่า..."

ว่าแล้วก็ซื้อหวีไว้ 10,000 อัน  ตั้งชื่อว่า 'หวีทวีบุญ' 'หวี

แคล้วคลาดปลอดภัย'      แล้วทำการปลุกเสกด้วยตนเอง

กลับเป็นที่นิยมยิ่ง... และแน่นอน เงินทำบุญบริจาคก็ได้

มากเป็นเงาตามตัว...

.......

แง่คิด

คนที่หนึ่ง

ถูกจำกัดด้วยกรอบความคิด

ไม่เหมาะที่จะเป็นนักขาย...

 

คนที่สอง

ขายแบบเรียกร้องความเห็นใจ

หรือขายแบบขอทาน ไปได้ไม่ไกล...

 

คนที่สามและที่สี่

คิดแทนผู้บริโภค คือทำให้ลูกค้าพอใจ อันนี้ ใช้ได้...

 

คนที่ห้า

ไม่เพียงทำให้ลูกค้าพอใจ

ยังไปสอพลอถึงในใจลูกค้าด้วย

นี่เรียกว่านักขายชั้นเซียน...

 

แต่คนที่หกนี่สิ... โครตเซียน

สุดยอดในการเข้าถึงทั้งวัตถุและคน

ไม่ใช่ขายหวี แต่ขายเครื่องรางของขลัง

ทำให้คุณค่าของลูกค้า อั๊ปไปจนถึงขั้นสูงสุด...สุดยอด


เซลล์ธรรมดาจะขายสินค้า  แต่เซลล์เทวดาจะขายฝัน... 

Cr:เรื่องดีๆมีข้อคิด


ไม่มีความคิดเห็น: