เรื่องของปราชญ์ขงจื้อ
บรรพบุรุษของขงจื้อ
เป็นผู้ดีแคว้นซ่ง ต่อมาอพยพมาอยู่ที่แคว้นหลู่ ฐานะล้มละลายในวัยหนุ่ม
ขงจื้อยากจนมาก มีชีวิตความเป็นอยู่ที่แร้นแค้น พอย่างเข้าสู่วัยกลางคน
ได้เปิดสำนักสอนนักเรียนขึ้นที่แคว้นหลู่ กลายเป็นปรมาจารย์ของพวกลัทธิหยู
ขงจื้อเสนอทัศนะทางครอบครัวว่า บิดาจะต้องเป็นใหญ่
ผู้เป็นบุตรจะต้องเคารพเชื่อฟังบิดา และย้ำว่า
มนุษย์ต้องอยู่ร่วมกันด้วยความรักและเมตตา ขงจื้อคัดค้านลัทธิเผด็จการ
เขาเป็นคนแรกที่ตั้งโรงเรียนขึ้น โดยมีความคิดว่าการศึกษาไม่มีการแบ่งชั้นวรรณะ
เขามีลูกศิษย์ประมาณ 3,000 คน ในจำนวนนี้มีศิษย์ดังๆอยู่ 72 คน
เนื่องจากคำสอนของขงจื้อมีอิทธิพลต่อคนจีนมาก เป็นหลักยึดของชาวจีนทั้งประเทศ
และเป็นเสาค้ำของสังคมจีนมานานกว่า 2000 ปี
ชาวจีนยกย่องขงจื๊อเป็นปราชญ์เมธีผู้ยิ่งใหญ่ และเป็นปรมาจารย์อมตะนิรันดร์กาล
เขาเป็นปรมาจารย์ผู้ยืดหยุ่นและละเอียดลออ เวลาอบรมบ่มสอนลูกศิษย์
ขงจื้อสนใจอุปนิสัยของลูกศิษย์มากๆ เขาจะตอบคำถามของศิษย์แต่ละคน
ตามลักษณะนิสัยที่แตกต่างกัน เช่น
ครั้งหนึ่ง
จื่อลู่ผู้เป็นศิษย์ถามขงจื้อว่า ถ้าเราทราบว่ามีเรื่องเรื่องหนึ่งสมควรทำ
เราควรรีบลงมือทำหรือไม่ ขงจื้อตอบว่า ถ้าบิดาหรือพี่ชายยังอยู่
ก็ควรถามบิดาหรือถามพี่ชายดูก่อน จะลงมือทำโดยความเห็นได้อย่างไร ต่อมา
หยั่นอิ๋วก็ถามปัญหานี้เช่นกัน แต่ขงจื้อกลับตอบว่าใช่เราควรรีบทำทันที
ศิษย์คนหนึ่งชื่อกงซีหัว
ได้ยินดังนี้ก็ประหลาดใจ จึงถามขงจื้อว่า
ทำไมคำถามเดียวกันจึงตอบไม่เหมือนกัน
ขงจื้อตอบว่า หยั่นอิ๋วนิวเป็นคนเฉื่อยแฉะชักช้ายืดยาดอาจารย์จึงต้องบอกให้เขารีบลงมือทำทันที
ส่วนจื่อลู่รูปเป็นคนใจร้อนอาจารย์ต้องสอนให้เขารู้จักยับยั้งชั่งใจไว้บ้าง
ซื่อเจียงจื่อดีดพิณก่งมาก
ขงจื้อจึงไปศึกษาจากเขาเป็นเวลา 10 วัน ในช่วง 10 วันนี้ขงจื้อฝึกอยู่เพลงเดียว ซื่อเชียงจื่อ
จึงบอกขงจื้อว่าท่านดีดเพลงนี้ได้ดีมากแล้วน่าจะฝึกดีดเพลงใหม่
แต่ขงจื้อกลับตอบว่า ข้าพเจ้าเล่นได้คล่องจริงแต่ยังกุมเทคนิคไม่ได้
ต่อมาซื่อเจียงจื่อเห็นว่า ขงจื้อ กุมเทคนิคการเล่นของเพลงนั้นค่อนข้างๆดีแล้ว
จึงพูดว่าเวลานี้ท่านกุมเทคนิคได้ดีแล้วน่าจะขึ้นเพลงใหม่สักที ขงจื้อตอบว่า
ข้าพเจ้ายังไม่เข้าใจอารมณ์ของเพลงนี้
เวลาผ่านไปอีกซื่อเจียงจื่อบอกว่าเวลานี้ท่านเข้าใจถึงอารมณ์เพลงดีแล้วควรฝึกเพลงใหม่ได้แล้ว
แต่ขงจื้อปฏิเสธข้าพเจ้ายังไม่ทราบว่าใครเป็นผู้แต่งเพลงนี้
หลังจากค้นคว้าอยู่ระยะหนึ่งในที่สุด ขงชื่อก็ทราบว่าเพลงนี้เป็นผลงานของพระเจ้าโจเหวินหวัง
สร้างความประทับใจแก่ซื่อเจียงจื่ออย่างยิ่ง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น