.....
เรื่องจริงที่เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกา
.
ค่ำคืนที่ลมแรงฝนตกหนัก
สามีภรรยาวัยชราคู่หนึ่งเดินเข้าไปในห้องโถงโรงแรม
จะขอเช่าห้องพัก
แต่พนักงานบริการเวรดึกบอกว่า
“ขออภัยครับ
ห้องพักทั้งหมดมีคณะมาประชุมแต่เช้าและจองเต็มหมดแล้ว"
.
โดยปรกติ
หากห้องเต็มผมจะส่งแขกไปพักที่โรงแรมสำรอง
แต่ผมไม่สบายใจหากท่านทั้งสองต้องฝ่าลมฝนอีกครั้งหนึ่ง
.
ท่านทั้งสองจะลองพักที่ห้องส่วนตัวผมไหม
ห้องแม้จะไม่หรูหราเท่าห้องชุด แต่ก็สะอาดดี
.
ผมเข้าเวรดึกไม่ต้องใช้ห้องส่วนตัว
ผมพักผ่อนที่เคาน์เตอร์ก็ได้”
.
หนุ่มให้คำเสนอแนะด้วยความจริงใจ
.
คู่สามีภรรยาวัยชรารับข้อเสนอด้วยความยินดี
และขออภัยที่สร้างความไม่สะดวกแก่พนักงานหนุ่ม
.
วันรุ่งขึ้นอากาศแจ่มใส
ชายชราเดินไปชำระเงินค่าห้องพัก
พบพนักงานคนเดิมยังอยู่ที่เคาน์เตอร์
.
พนักงานหนุ่มยังคงพูดด้วยอัธยาศัยดีว่า
“ห้องที่ท่านพักเมื่อคืนวานไม่ใช่ห้องรับแขกของโรงแรม
เราจะไม่คิดค่าห้อง หวังว่าท่านและคุณผู้หญิง
นอนหลับสบายตลอดคืนที่ผ่านมา”
.
ชายชราผงกศีรษะชื่นชมหนุ่ม
“คุณเป็นพนักงานที่เจ้าของโรงแรมทุกคนใฝ่ฝันอยากได้
สักวันหนึ่งผมอาจช่วยคุณสร้างโรงแรมสักแห่ง”
.
หลังจากนั้นหลายปี
หนุ่มได้รับจดหมายลงทะเบียนฉบับหนึ่ง
.
พร้อมกับแนบตั๋วเครื่องบินไปกลับนครนิวยอร์ก
และหนังสือเชิญไปเที่ยวนิวยอร์ก
ในจดหมายเล่าถึงเหตุการณ์ในคืนที่ลมพัดแรงและฝนตกหนัก
.
หลังจากเดินทางไปถึงแมนฮัทตันไม่กี่วัน
ชายหนุ่มก็ได้พบกับชายชราผู้เป็นแขกเก่าหลายปีก่อน
ณ แยกถนนสาย 5th Ave. ตัดกับ
34th Ave.
.
ณ จุดนี้มีอาคารหรูหราสร้างใหม่ตั้งตระหง่านอยู่
.
ชายชรากล่าวว่า
“นี่แหละคือโรงแรมที่ผมสร้างเพื่อคุณ
ขอให้คุณมาช่วยผมดำเนินการ จำได้ไหม”
.
ทันทีที่ฟังชายชราพูดจบ
ชายหนุ่มตกตะลึงจนพูดจาติดอ่าง
ท่านมีเงื่อนไขอะไรบ้าง? ทำไมจึงเลือกผม?
ท่านเป็นใครกันแน่?
.
“ฉันคือ William Waldorf Astor ฉันไม่มีเงื่อนไขใด
ๆ ทั้งสิ้น
ฉันเคยพูดว่า
คุณคือคนที่ฉันใฝ่ฝันอยากได้เป็นพนักงาน”
.
ต่อมาที่นี่กลายเป็นโรงแรม Waldorf ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในนครนิวยอร์ก
.
โรงแรมแห่งนี้เปิดกิจการเมื่อปี 1931
เป็นสัญลักษณ์แสดงฐานะ
อันทรงเกียรติในนครนิวยอร์ก
ผู้นำประเทศต่าง ๆ มักจะเลือกพักที่นี่เมื่อมาเยือนนครนิวยอร์ก
.
พนักงานที่รับหน้าที่ในขณะนั้นมีชื่อว่า George
Boldt
ซึ่งเป็นผู้ผลักดันให้ Waldorf ครองตำแหน่งอันทรงเกียรติ
ตลอดศตวรรษที่ผ่านมา
.
อะไรเล่าที่เปลี่ยนชะตาชีวิตของพนักงานผู้นี้
ไม่ต้องสงสัยเลย เขาพบผู้ใจบุญนั่นเอง
.
แต่ถ้าหากพนักงานที่เข้าเวรในคืนที่ฝนตกหนักเป็นอีกคนหนึ่ง
จะเกิดผลเหมือนกันไหม
.
ชีวิตในโลกนี้เต็มไปด้วยบุญวาสนา
เราแต่ละคนมีโอกาสก้าวหน้าเมื่อบุญมาวาสนาส่ง
.
อย่ามองข้ามคนใดคนหนึ่ง
อย่าปล่อยปละละเลยโอกาสที่ช่วยเหลือผู้อื่นได้
.
หัดปฏิบัติต่อทุกคนด้วยความยินดี
เรียนรู้วิธีทำงานทุกอย่างให้สมบูรณ์แบบ
ฝึกเป็นผู้เปี่ยมด้วยจิตใจขอบคุณในทุกโอกาส
.
จงเชื่อมั่นว่า
ตัวเราเองเป็นผู้มีบุญคุณแก่ตน
.
***
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น